การโฆษณา มีความจำเป็นต้องใช้ภาษาที่ดึงดูดความสนใจของคนอ่านคนฟัง นักโฆษณาจึงมักคิดค้นถ้อยคำ สำนวนภาษาแปลก ๆ ใหม่ ๆ นำมาโฆษณาอยู่เสมอ เพื่อเรียกร้องความสนใจจากคนซื้อ ในขณะเดียวกันการโฆษณาต้องใช้ภาษาที่ง่าย ๆ กะทัดรัด ได้ใจความชัดเจนดี น่าสนใจ ให้ทันเหตุการณ์ รวดเร็ว มีเสียงสัมผัสคล้องจอง จดจำได้ง่ายด้วย จึงมีถ้อยคำเกิดใหม่ ๆ อยู่เสมอ วิเศษ ชาญประโคน (2550, หน้า 48-50) กล่าวถึงภาษาโฆษณาไว้สรุปได้ดังนี้
ภาษาโฆษณาเป็นภาษาที่มุ่งโน้มน้าวจิตใจให้ผู้รับสารเปลี่ยนความคิด และเกิดการกระทำตาม ลักษณะของภาษาจึงมีสีสัน เน้นอารมณ์ด้วยการใช้ภาษาต่างระดับในข้อความเดียวกัน ส่วนมากเป็นภาษาทางการกับกึ่งทางการ ภาษาโฆษณามีลักษณะดังนี้
1. เรียกร้องความสนใจ
คือเลือกใช้ภาษาที่ง่าย สุภาพ กระตุ้นความรู้สึกของลูกค้า
2. ให้ความกระจ่างแก่ลูกค้า
เป็นการใช้ภาษาที่ง่ายชัดเจนในการกล่าวถึงคุณภาพของสินค้าหรือบริการ
3. ให้ความมั่นใจ
เป็นการอ้างอิงข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจ
4. ยั่วยุให้เกิดการตัดสินใจ
เป็นการใช้ถ้อยคำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการโดยเร็วที่สุด
นอกจากนี้ สุภาวดี สุประดิษฐ์อาภรณ์ (2550, หน้า 17) กล่าวถึง การใช้ภาษาโฆษณา
สรุปได้ดังนี้
1. มีการใช้ประโยคที่สั้น กะทัดรัด
ไม่ยาวหรือสั้นจนเกินไป ไม่ใช้คำพูดหรือข้อความ ฟุ่มเฟือยไม่จำเป็นแต่อ่านแล้วสามารถที่จะจับใจความ ได้ทันที
2. มีความชัดเจน
ไม่กำกวมในข้อความโฆษณา คือใช้คำพูดที่ผู้รับสารอ่านหรือได้ยินแล้ว ปราศจากข้อสงสัย เพื่อที่จะสามารถตอบคำถามที่คาดว่าผู้รับสารต้องการที่จะทราบได้หลีกเลี่ยงการใช้คำพูด สำนวนโวหาร หรือข้อความ ที่กำกวมทำให้ตีความได้หลายทาง หรือสามารถที่จะตีความได้หลายทาง หรือสามารถที่จะ ตีความได้หลายความหมาย
3. ใช้ภาษาที่อ่าน หรือฟัง เข้าใจง่ายกับการบรรยายถึงสรรพคุณสินค้า
อาจมีการใช้ สำนวนภาษาที่แตกต่างจากโครงสร้างในภาษาไทย กล่าวคือไม่ยึดติดกับหลักภาษาไทย มากจนเกินไปเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันใน อายุ อาชีพ และเพศ แต่ต้องคำนึงถึงว่าจะทำให้เกิดผลให้ผู้อ่านเข้าใจผิดหรือเกิดผลในทางลบได้ อย่ามุ่งแต่จะใช้ความแปลกใหม่ แต่เพียงอย่างเดียว ภาษาที่ใช้กันทั่วไปเป็นสิ่งที่ดีถ้านำมาใช้อย่างเหมาะสม เนื่องจากเป็นสิ่งที่คุ้นเคย กันเป็นอย่างดี แต่ต้องระวังไม่ให้ผู้รับสารรู้สึกว่าเป็นภาษาที่หยาบคาย
สันทนี บุญโนทก, รักษ์ศิริ ชุณหพันธรักษ์ และสิริมา เชียงเชาว์ไว (ม.ป.ป., หน้า 100-101) กล่าวถึงหลักการเขียนข้อความโฆษณา ไว้ดังนี้
1. ต้องทำให้ผู้รับสารเกิดความสะดุดตา สะดุดใจ (attention) โดยอาจใช้คำพูด ถ้อยคำให้ผลกระทบในทันที ทำให้อยากจะฟังหรืออ่านข้อความต่อไป
2. เพื่อกระตุ้นความสนใจให้เกิดแก่ผู้รับสาร (interest) การทำงานโฆษณาจะต้องทำให ้ผู้รับสารเกิดความสนใจในสารทันที
3. เพื่อสร้างความปรารถนาให้เกิดขึ้นแก่ผู้รับสาร (desire) งานโฆษณาที่ดีต้องสามารถสร้างความรู้สึก ให้ผู้รับสารเกิดความต้องการที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ เกิดความต้องการในการบริโภค
4. เพื่อให้เกิดการปฏิบัติ (action) งานโฆษณาต้องสามารถโน้มน้าวใจให้ผู้รับสารมีความรู้สึกคล้อยตาม จนเกิดการตัดสินใจซื้อสินค้า
ข้อควรคำนึงในการใช้ภาษาเพื่อการโฆษณา มีดังนี้
1. ใช้ภาษาสามัญ ง่าย ๆ สุภาพเข้าใจง่าย สละสลวยหนุ่มนวล ชวนสนใจ
2. ใช้ถ้อยคำภาษาที่ตรงความหมายที่ต้องการ สอดคล้องกับวัฒนธรรมของการใช้ภาษา
3. ใช้ถ้อยคำ ภาษาที่ถูกต้อง เหมาะสม ไม่ใช้ภาษาแสลง วิบัติ หรือคำต่ำกว่ามาตรฐาน
4. ใช้ภาษาให้ถูกต้องตามแบบแผน ไม่ใช้ถ้อยคำที่ตัด หรือย่อที่รู้กันเฉพาะกลุ่ม
5. ไม่ใช้คำที่มีความหมายกำกวม เข้าใจได้สองแง่สองมุม คำผวน คำภาษาตลาด
6. ไม่ใช้คำวิชาการหรือศัพท์เทคนิคเกินความจำเป็น
7. ควรใช้คำที่เหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคล ไม่ส่อเสียด ไม่ทับถมผู้อื่น
9. ไม่ใช้ภาษาโลดโผนและโฆษณาเกินความจริง เป็นการดูถูกสติปัญญาผู้รับสาร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น